ยูฟ่าแบนเงิน! เชลซี-แอสตัน วิลล่า โดนปรับเหตุละเมิดกฎการเงิน อาจชวดลงทะเบียนนักเตะใหม่

สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) สั่งปรับเงินสโมสรเชลซีและแอสตัน วิลล่า หลังพบว่าทั้งสองทีมละเมิดกฎการเงินขององค์กร โดยเฉพาะกฎเกี่ยวกับ "รายได้จากฟุตบอล" และ "สัดส่วนค่าแรงนักเตะต่อรายได้รวม" ที่เกิน 80%
เชลซีถูกปรับ 31 ล้านยูโร (ประมาณ 1,200 ล้านบาท) และอาจต้องจ่ายเพิ่มอีก 60 ล้านยูโร (ราว 2,300 ล้านบาท) หากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดภายใน 4 ปี ส่วนแอสตัน วิลล่าโดนปรับ 11 ล้านยูโร (ราว 420 ล้านบาท) โดยมีค่าปรับเพิ่มเติมอีก 15 ล้านยูโร (ราว 560 ล้านบาท) หากไม่ปฏิบัติตามในระยะเวลา 3 ปี
หากทั้งสองสโมสรไม่สามารถรักษาบาลานซ์การซื้อ-ขายนักเตะ (transfer balance) ให้เป็นบวกได้ภายในช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้ พวกเขาอาจถูกห้ามลงทะเบียนนักเตะใหม่ในการแข่งขันระดับยุโรปฤดูกาลหน้า ซึ่งเชลซีมีสิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2025-26 ส่วนวิลล่าไปยูโรปาลีก
ยูฟ่าเปิดเผยว่า รายได้จากการขายสินทรัพย์ต่าง ๆ การแลกเปลี่ยนนักเตะ และการโอนนักเตะระหว่างบริษัทในเครือ จะไม่ถูกนับเป็นรายได้ทางการเงินในรายงานที่ส่งต่อยูฟ่า
แม้เชลซีจะรายงานกำไรก่อนหักภาษี 128.4 ล้านปอนด์ในเดือนมิถุนายน 2024 ซึ่งรวมรายได้จากการขายทีมหญิงมูลค่า 200 ล้านปอนด์ให้กับบริษัทในเครือ BlueCo และการขายโรงแรมสองแห่งเพื่อใช้ผ่านกฎของพรีเมียร์ลีก (PSR) แต่ยูฟ่าระบุว่าแนวทางเหล่านี้ไม่เป็นไปตามกฎของตน
ด้านแอสตัน วิลล่าก็ตกเป็นข่าวว่าเตรียมขายทีมหญิงเพื่อให้เป็นไปตามกฎ PSR ของพรีเมียร์ลีกเช่นกัน
จนถึงตอนนี้ เชลซีใช้เงินเสริมทัพไปแล้วราว 150 ล้านปอนด์ในการเซ็นสัญญานักเตะใหม่ 5 ราย ขณะที่วิลล่ายังไม่ปิดดีลใหญ่ใดๆ
ยูฟ่ายังสั่งปรับบาร์เซโลนา 15 ล้านยูโร และโอลิมปิก ลียง 12.5 ล้านยูโร จากการละเมิดกฎการเงินเช่นกัน โดยกรณีของลียงมีโทษเพิ่มเติมหากทีมถูกลดชั้นจากลีกเอิง เพราะอาจทำให้คริสตัล พาเลซ เสี่ยงถูกตัดสิทธิ์เล่นยูโรปาลีก เนื่องจากประเด็นความเป็นเจ้าของร่วมกัน (MCO) ของนักธุรกิจชาวอเมริกัน จอห์น เท็กซ์เตอร์

